... สมัยก่อน การทำให้อากาศอากาศขึ้น จะใช้วิธีเปิดช่องหน้าต่างให้ลมพัดเข้ามาในห้อง แล้วเปิดช่องระบายลมออกอีกข้างให้มากๆเข้าไว้ เป็นการเจือจางอากาศให้มีความเข้มข้นมลพิษต่ำลง
... มาถึงยุคเครื่องกรองอากาศ ชาวบ้านชอบเรียกเครื่องฟอกอากาศ แต่การที่มีห้องใหญ่ๆตึกยักษ์ๆเกิดขึ้นไม่พอใช้งาน ทำให้เกิดการกั้นห้องมากขึ้น อากาศไม่ได้ระบายอย่างที่เคยเป็นหรือวางแผนไว้แต่แรก คนจึงนำระบบแผ่นกรองอากาศมาใช้ ด้วยการเอาเครื่องที่มีมอเตอร์พัดลมมาดูดอากาศออกจากห้อง เข้าไปผ่านในเครื่องที่มีแผ่นกรองอากาศ มลพิษก็จะถูกจับกั้นไว้ติดที่แผ่นกรอง ... ยิ่งเครื่องดูดอากาศจากห้องได้มากได้เร็ว มลพิษต่างๆก็จะเข้าไปอยู่ในเครื่องได้มากตามไปด้วย เป็นที่มาของเครื่องกรองอากาศ (ชาวบ้านเรียกเครื่องฟอกอากาศ)ที่ว่า ใครมีแรงดูดมากกว่า ก็จะเป็นเครื่องกรองอากาศที่ดีกว่า แต่ก็อย่าลืมว่าสารมลพิษจะถูกสะสมไว้ที่แผ่นกรอง เมื่อมอเตอร์พัดลมดูดแรงๆ ก็จะทำให้แผ่นกรองขาดได้ สารมลพิษก็จะถูกออกมาอีกทาง ตอนนี้ก็กลายเป็นเครื่องพ่นมลพิษไปซะงั้น ... จากการสำรวจพบว่า แผ่นกรองมักจะขาดเสมอ เพราะแรงดูดของมอเตอร์พลังสูงที่พยายามจะดูดอากาศผ่านแผ่นกรองที่อุดตันด้วยสารมลพิษ ก็ทำให้แผ่นขาดเป็นรู อีกสาเหตุหนึ่งคือ คนเอาแผ่นกรองไปล้างหรือดูดด้วยเครื่องดูดฝุ่นหรือเคาะ ซึ่งแผ่นกรองละเอียด (HEPA) ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะต้องเปลี่ยนอย่างเดียว
... มาถึงยุคใหม่ สร้างพื้นที่ปลอดมลพิษ ด้วยเทคโนโลยี่ในศตวรรษนี้ วิศวกรคิดว่าทำไมต้องดูดมลพิษเข้าไปในเครื่องอย่างเดียว ไม่ผลิตสารเลียนแบบธรรมชาติที่ทำลายมลพิษได้ทันทีข้างนอกเครื่อง ก็ไปเจออนุภาคไฟฟ้าลบ คิดค้นมากว่า 30 ปี ให้ถูกพ่นเข้าไปในห้อง แต่ก็ทำได้แค่จับฝุ่น ทำลายมลพิษไม่ได้มาก การค้นคว้าก็เลยไม่คืบหน้าต่อ จนกระทั่งมีวิศวกรคิดค้นนวตกรรมใหม่โดยบังเอิญ คืออนุภาคไฟฟ้าบวกและลบ พ่นพร้อมกันเข้าไปในห้อง
... ยุคที่เชื้อโรคมลพิษหดหาย ด้วยการที่อนุภาคไฟฟ้าบวกและลบ ที่ถูกพ่นเข้าไปในห้อง ไปทำลายเชื้อโรคและสาร
พิษหลายๆประเภทได้ ทำให้เกิดห้องปลอดเชื้อหรือโซนอากาศสะอาด คนที่เข้าไปอยู่ในโซนหรือผ่านโซนนี้ ก็จะสะอาดตามไปด้วยเพราะเชื้อโรคและสารพิษถูกทำลายทันทีที่เข้าไปในโซนหรือห้องนั้นๆ ... วิธีนี้ไม่ต้องใช้พัดลมดูดลมแรงๆ ไม่ต้องดักจับสารพิษเข้าในเครื่อง ชีวิตมนุษย์ลดความเสี่ยงต่อโรคภัยได้มาก ใครเคยได้ใช้ก็จะรู้ว่าประหยัดเงินค่ารักษาพยาบาลไปนานเลย
พิษหลายๆประเภทได้ ทำให้เกิดห้องปลอดเชื้อหรือโซนอากาศสะอาด คนที่เข้าไปอยู่ในโซนหรือผ่านโซนนี้ ก็จะสะอาดตามไปด้วยเพราะเชื้อโรคและสารพิษถูกทำลายทันทีที่เข้าไปในโซนหรือห้องนั้นๆ ... วิธีนี้ไม่ต้องใช้พัดลมดูดลมแรงๆ ไม่ต้องดักจับสารพิษเข้าในเครื่อง ชีวิตมนุษย์ลดความเสี่ยงต่อโรคภัยได้มาก ใครเคยได้ใช้ก็จะรู้ว่าประหยัดเงินค่ารักษาพยาบาลไปนานเลย
... อ้าว โซนอากาศสะอาดไม่เคยทำได้มาก่อนเหรอ ก็มีเหมือนกันแต่เลิกใช้ไปแล้ว เป็น โอโซน หรือ แสงยูวี สามารถสาดเข้าไปในห้องได้ เจ้าสองตัวนี้ก็ทำลายเชื้อหรือสารมลพิษได้เหมือนกัน แต่เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิต จึงไม่สะดวกในการใช้งาน ก็นิยมใช้น้อยลงเรื่อยๆ ... ส่วนที่มีการขายในท้องตลาด จะเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่ว่า โอโซน หรือ แสงยูวี เหล่านี้ จะทำลายเชื้อโรคหรือสารมลพิษ ต่อเมื่อมันมีความเข้มข้นสูงมากๆ มากจนอันตรายต่อมนูษย์ ไอ้ความเข้มข้นที่มีขายในท้องตลาด ไม่พอที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพใช้งานจริงๆหรอก แค่ได้กลิ่นคาวปลาของโอโซน คนก็เชื่อว่ามันทำงานได้ ซึ่งไม่จริงแต่ประการใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น