วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

บางคน .. เพียงแค่พูดคุยก็ติดวัณโรคได้ (หรือ)

บางคน .. เพียงแค่พูดคุยก็ติดวัณโรคได้ (หรือ)

วัณโรคเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ    และไทยก็เป็นประเทศที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของวัณโรคโดยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 18 จาก 22 ประเทศที่มีผู้ป่วยวัณโรคสูงของโลก    ในแต่ละปีมีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่ขึ้นทะเบียนเป็นจำนวนมาก    ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นผู้ป่วยวัณโรคปอดที่สามารถแพร่เชื้อได้    และผลสำเร็จของรักษาผู้ป่วยมีเพียงร้อยละ 71.8    สาเหตุหลักคือเสียชีวิตก่อนการรักษาครบและขาดยา    ทำให้แนวโน้มของการดื้อต่อยารักษาวัณโรคเพิ่มสูงขึ้น    ในปีงบประมาณ 2558    โรงพยาบาลลำปางมีผู้ป่วยวัณโรคปอดที่ตรวจเสมหะพบเชื้อขึ้นทะเบียนรักษาจำนวน 297 ราย    ผลสำเร็จของการรักษาร้อยละ 80.53    ไม่บรรลุตามเป้าหมายขององค์การอนามัยโลกที่กำหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ 85    สาเหตุสำคัญคือการเสียชีวิตและการขาดยาเช่นกัน    การเสียชีวิตพบมากในผู้ป่วยสูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคร่วม    การขาดยาในผู้ป่วยวัณโรคมีเหตุเกี่ยวข้องหลายอย่าง    เช่น    ขาดความร่วมมือในการรักษาจากผู้ป่วย  การรักษามีผลข้างเคียงทำให้ผู้ป่วยท้อแท้  สังคมและครอบครัวไม่ยอมรับ    รังเกียจผู้ป่วย    ทำให้ผู้ป่วยไม่ร่วมมือในการรักษา    ซึ่งการรักษาวัณโรคไม่ครบตามแผนการรักษาทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อและเกิดวัณโรคชนิดดื้อยา





วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย    เป็นได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย    แต่ที่เป็นปัญหามากคือวัณโรคปอดเพราะแพร่เชื้อติดต่อไปสู่ผู้อื่นได้ง่ายโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย    เด็กเล็ก    ผู้สูงอายุ    หรือผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ    มักมีโอกาสติดโรคง่ายและมีอาการรุนแรงมากกว่าคนปกติ    อาการที่น่าสงสัยว่าจะเป็นวัณโรคปอด    คือ    อ่อนเพลีย    เบื่ออาหาร    น้ำหนักลด    มีไข้ต่ำ ๆ    เจ็บหน้าอก    ไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์หรือไอมีเสมหะปนเลือดออกมา    ผู้ป่วยอาจมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้    หากสงสัยว่าจะป่วยเป็นวัณโรคควรเข้ารับการตรวจและรักษาโดยด่วน    ปัจจุบันหมอจะรักษาด้วยระบบยาระยะสั้น    โดยใช้ยาควบคู่กันหลายขนาน    สามารถรักษาวัณโรคให้หายขาดได้ภายใน 6 - 8 เดือน    จากเดิมที่ต้องใช้ยานานปีครึ่งถึงสองปี    สิ่งสำคัญคือผู้ป่วยต้องกินยาครบทุกขนานตามขนาดที่หมอสั่งทุกมื้ออย่างเคร่งครัดและมาตรวจตามนัดทุกครั้ง    เมื่ออาการดีขึ้นมากอย่าหยุดยาเองโดยเข้าใจว่าหายแล้วเด็ดขาดเพราะเชื้อวัณโรคในร่างกายยังไม่หมด  จะเกิดการดื้อยาและกลับมากำเริบใหม่ทำให้การรักษายากมากขึ้นและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 
วิธีการป้องกันวัณโรคที่สำคัญคือ    หากพบว่ามีผู้ป่วยวัณโรคในครอบครัวหรือในชุมชนต้องพาไปรับการรักษาโดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจายสู่ผู้อื่น   เพราะในผู้ที่ร่างกายอ่อนแอหรือมีภูมิต้านทานต่ำเพียงแค่การพูดคุยกับผู้ป่วยก็มีโอกาสติดเชื้อวัณโรคได้    ดังนั้นผู้ป่วยต้องปิดปากและจมูกทุกครั้งขณะไอหรือจาม    บ้วนเสมหะในภาชนะที่มีฝาปิดแล้วทำลายโดยการต้มหรือเผา    สำหรับเด็กแรกเกิดต้องได้รับการฉีดวัคซีนบีซีจีป้องกันวัณโรคทุกรายเพื่อเพิ่มความต้านทานของร่างกายต่อเชื้อวัณโรคค่ะ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น