วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ส้นเท้าแตกทำไง ปัญหาสุดเซ็งสำหรับใครหลายคน แตกแห้งอย่าปล่อยไว้จนลุกลาม ทั้งปวดและเสียบุคลิก

เท้า เป็นอวัยวะที่ถูกใช้งานตลอดแทบทั้งวัน ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงหลีกเลี่ยงปัญหาส้นเท้าแตกได้ยาก ปัญหาส้นเท้าแตกนั้นมักจะพบบ่อยกับคนอ้วนเนื่องจากมีน้ำหนักตัวเยอะ หรือกับคนที่ชอบเดินเท้าเปล่าบนพื้นปูน หรือพื้นแข็ง ๆ และยังอาจเกิดได้จากกรรมพันธุ์ คนที่มีฝ่าเท้าหนา และขาดความชุ่มชื่น

นอกจากนี้การใส่รองเท้าเปิดส้น หรือรองเท้าที่ไม่มีคุณภาพก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ส้นเท้าแตกได้เช่นเดียวกัน อย่างเช่น ส้นรองเท้าแข็งจนเกินไป หรือรองเท้าบีบรัดส้นเท้าจนเกินไป โดยระยะแรกของอาการส้นเท้าแตกจะเริ่มจากการบวมแดงหรืออักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้จะเริ่มหนาแล้วก็แตกเป็นรอยเล็ก ๆ นานไปจะกลายเป็นหนังกำพร้า และมีร่องลึกเป็นเส้นที่บริเวณส้นเท้า หนักกว่านั้นคือส้นเท้าจะแตกเป็นรอยเลือดและมีอาการเจ็บแสบจนแทบเดินไม่ได้กันเลยทีเดียว ทั้งนี้สำหรับคนไหนที่กำลังมีปัญหาส้นเท้าแตกอยู่อย่าปล่อยทิ้งไว้นานจนกลายเป็นปัญหาลุกลามใหญ่โตนะคะ ควรรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า เพื่อบรรเทาความปวดเรื้อง



วิธีรักษาส้นเท้าแตก สามารถทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

แช่เท้าในน้ำอุ่นประมาณ 15 นาที จากนั้นให้ใช้หินสำหรับขัดเท้าถูเบา ๆ ตรงบริเวณรอยแตก โดยให้ทำแบบนี้อาทิตย์ 2-3 ครั้ง ซึ่งการขัดด้วยหินจะช่วยขจัดเซลล์ของผิวหนังที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป จากนั้นล้างเท้าให้สะอาด ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง เสร็จแล้วให้ทาครีมสำหรับรักษาอาการส้นเท้าแตก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีส่วนผสมของยูเรียที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและช่วยบรรเทาให้อาการส้นเท้าแตกดีขึ้นได้


ก่อนนอนควรสวมถุงเท้าเอาไว้ เพื่อคงความชุ่มชื้นของส้นเท้าให้อยู่ตลอดคืน หากทำแบบนี้เป็นประจำจะทำให้ส้นเท้าหายจากอาการแตก และมีผิวเนียนนุ่มขึ้น ในระหว่างที่รักษาอาการส้นเท้าแตกควรทาครีมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับส้นเท้าบ่อย ๆ รวมถึงควรใส่รองเท้าปิดส้นจนกว่าผิวที่ส้นเท้าจะกลับมานุ่มเป็นปกติ


สำหรับใครที่มีอาการหนักจนส้นเท้าแตกเป็นรอยเลือดและมีอาการเจ็บแสบ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อทำการรักษาให้ตรงจุด ซึ่งจะช่วยให้อาการส้นเท้าแตกหายได้เร็วขึ้น อย่าพยายามตัดผิวหนังออกหรือใช้ของมีคมแซะผิวหนังที่แตกออก อาจทำให้ติดเชื้อหรืออักเสบที่เรื้อรัง ยากที่จะรักษา


วิธีป้องกันส้นเท้าแตก


เมื่ออยู่ในบ้าน ควรใส่รองเท้าสำหรับเดินในบ้านเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เท้าเย็นจนขาดความชุ่มชื้นและช่วยลดไม่ให้ส้นเท้ากระแทกกับพื้นแรงจนเกินไป หากต้องเดินเท้าเปล่าบนพื้นเย็น ๆ ควรทาครีม วาสลีน หรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่ส้นเท้าเสียก่อน เลือกรองเท้าให้มีขนาดพอดีกับเท้า มีคุณภาพ ใส่แล้วไม่คับ และพื้นไม่แข็งจนเกินไป ควรใส่ถุงเท้าเวลานอนเป็นประจำ เพื่อลดการสูญเสียความชุ่มชื้นจากผิวหนัง
ในกรณีคนอ้วน ควรลดน้ำหนักลง เพราะนอกจากจะช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตกแล้ว ยังจะมีข้อดีอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น กลับมามีรูปร่างดี และลดอัตราการเกิดโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ อันเกิดจากสาเหตุโรคอ้วน เป็นต้น



ปัจจุบันมีครีมทาส้นเท้า แบบมีสารเคมี และไม่มีสารเคมี ให้เลือกใช้ ... แบบมีสารเคมี ก็มักจะใช้สารเคมีที่เป็นกรด กัดกร่อนเอาผิวหนังที่เสียออกมา แต่ก็ทำลายผิวหนังข้างๆไปในตัว ... แบบไม่มีสารเคมี ก็ใช้วิธีขัดผิวหนังชั้นนอกให้หลุดลอกออกมา เพื่อให้ร่างกายสร้างผิวหนังชั้นในขึ้นมาแทนที่ วิธีปลอดภัยกว่า แต่ผู้ใช้ต้องขยันทาถูขัดบ่อยๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น